บทที่ 9 9

9

“อะไรกันวะไอ้อั้ม มึงพาใครมาด้วยเนี่ย” ภมรเป็นคนเอ่ยถาม ท่าทางของชายหนุ่มทั้งห้าคนที่มาพร้อมวิกรมน่ากลัวทั้งนั้น โดยเฉพาะคนที่ยืนหน้าสุดใบหน้าของเขานั้นดุกร้าว แววตาเหมือนมีไฟอยู่ในนั้น

“กูพาคุณคาร์ลมาหามึง คุณคาร์ลอยากจะถามอะไรมึงนิดหน่อย เกี่ยวกับแหวนของเขาที่หายไป”

วิกรมตอบคำถามเพื่อน ภมรหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้คือคาลิเอโปเจ้าของห้องพักที่เขาขโมยแหวน มา แต่พยายามเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้ใครผิดสังเกต ตอนนี้ในตัวของเขาไม่มีหลักฐานว่าเขาเป็นคนขโมยแหวนมา เพราะเขาได้เปลี่ยนมันเป็นเงินเรียบร้อยแล้ว ส่วนใบที่โรงรับจำนำให้มานั้นเขาได้ฉีกทำลายหลักฐานเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่หลงเหลือหลักฐานใดๆ เลยแม้แต่ชิ้นเดียว นอกจากเงินที่อยู่ในกระเป๋า

“นายเห็นแหวนที่วางอยู่ในห้องน้ำ ตรงอ่างล้างหน้าหรือเปล่า” คาลิเอโปถามภมรเป็นภาษาไทยค่อนข้างชัดเจน ดวงตาคมกล้าจ้องเขม็งที่ใบหน้าของคนที่ถูกถามนิ่ง ภมรทำใจดีสู้เสือยืนกรานเสียงแข็งว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

“ผมไม่รู้ครับ ตอนที่ผมเข้าไปทำความสะอาดในห้องน้ำ ผมเห็นแค่สร้อยที่ขาดวางอยู่ตรงขอบอ่างล้างหน้าเท่านั้นครับ ส่วนแหวนเพชรผมไม่เห็นครับ” ภมรเอ่ยตอบเสียงค่อนข้างสั่น จะไม่ให้สั่นได้ยังไงในเมื่อคาลิเอโปมองหน้าเขาอย่างจับผิดชนิดที่เรียกว่าตาไม่กะพริบ เพื่อนๆ ของภมรที่นั่งตั้งวงสุราอยู่นั้นเงียบกริบไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเพื่อนแต่อย่างใด

“ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าแหวนวงนั้นเป็นแหวนอะไร อาจจะเป็นแหวนทอง แหวนเงินก็ได้ แต่ทำไมนายรู้ว่ามันคือแหวนเพชร” ภมรถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกอีกฝ่ายดักคออย่างรู้เท่าทัน เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้าและแผ่นหลังของภมร ใจเต้นเร็ว ความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนกำลังเกิดขึ้นในความรู้สึกของเขา

“ผะ...ผมเดาเอาน่ะครับ คิดว่าฐานะอย่างคุณไม่น่าจะมีแหวนทองแหวนเงินอย่างที่คุณพูดเมื่อสักครู่ น่าจะมีแหวนเพชรมากกว่าครับ” ในที่สุดเขาก็หาข้อแก้ตัวได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะเชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว ออกจะมั่นใจด้วยซ้ำว่าภมรเป็นคนขโมยแหวนของเขาไป คาลิเอโปหลุบตามองขวดสุรายี่ห้อดังที่มีราคาขวดละไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันบาทที่มีถึงสามขวด กับแกล้มแต่ละอย่างนั้นล้วนแล้วแต่มีราคาแพงทั้งสิ้น เขาไม่ได้ดูถูกหรือว่าดูแคลนคนเหล่านี้ เพียงแต่ว่าทั้งฐานะและวัยวุฒิคนพวกนี้ไม่น่าจะมีเงินซื้อสุราแพงๆ ได้ ยิ่งคำบอกเล่าของวิกรมที่บอกอุปนิสัยของภมรด้วยแล้ว เขายิ่งมั่นใจมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำไป

“ฉันจะถามอีกครั้งเดียวว่า นายเห็นแหวนเพชรของฉันที่วางอยู่ที่อ่างล้างหน้าหรือเปล่า” คาลิเอโปถามด้วยน้ำเสียงเน้นหนักทุกคำพูด ภมรตอนนี้ถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้จะตอบออกไปยังไงดี หากแต่ภมรก็ยังคงเป็นภมร เป็นผู้ร้ายปากแข็งเช่นเดิม

“ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ” สิ้นคำตอบของภมร ปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวของคาลิเอโปถูกเจ้าของดึงออกมา พร้อมกับเล็งไปที่ร่างของภมรที่บัดนี้ดีดตัวลุกขึ้นยืน หน้าซีดราวกับไก่ต้ม ตัวสั่นอย่างกับลูกหมาเปียกน้ำ ไม่ต่างอะไรกับมานะ อนันต์และเพื่อนอีกสี่ห้าคนของภมรที่บัดนี้ยืนกระจุกรวมตัวกันอยู่ที่เดียว

“กูจะให้โอกาสมึงอีกครั้ง มึงเอาแหวนของกูมาใช่ไหม”

คาลิเอโปตะโกนถามเสียงดังราวกับฟ้าผ่า สีหน้าไม่บ่งบอกถึงความเมตตาเลยสักนิดเดียว เขาพร้อมที่จะเหนี่ยวไกปืนได้ทุกเมื่อทุกเวลา ภมรและเพื่อนๆ ถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความหวาดกลัว อนันต์ที่ขี้ขลาดตาขาวมากที่สุดในกลุ่ม รีบพูดบางอย่างขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองรอดจากความตายที่กำลังเผชิญ

“ไอ้ต้อมครับ ไอ้ต้อมมันเป็นคนขโมยแหวนของคุณมาจริงๆ มันเอาไปจำนำที่โรงรับจำนำ ได้เงินมาก็เอามาซื้อเหล้าให้พวกผมกินอย่างที่คุณเห็น พวกผมไม่เกี่ยวไม่รู้เรื่องด้วยเลย ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่รู้เรื่องด้วยจริงๆ” อนันต์พูดออกมาเพราะความกลัว ทั้งๆ ที่แผนนี้เขาเป็นคนชี้ทางให้ภมรทำ ภมรมองหน้าเพื่อนสนิทที่โยนความผิดมาให้เขาเต็มๆ อย่างไม่พอใจ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ แทนที่จะช่วยเหลือเขา กลับพูดในทำนองเดียวกันอีก

“จริงครับ ไอ้ต้อมมันทำคนเดียว ผมกับเพื่อนๆ ไม่รู้เรื่องด้วยเลยครับ”

มานะและเพื่อนที่เหลือต่างร้องขอชีวิตกันอย่างถ้วนหน้า มีเพียงภมรเท่านั้นที่ปากหนักอึ้งไม่สามารถขยับเขยื้อนปากพูดอะไรได้เลย ความกลัวยิ่งเพิ่มพูนมากเป็นร้อยเท่า เมื่อคาลิเอโปเดินเข้ามาใกล้ แล้วปลายกระบอกปืนก็มาจ่ออยู่กลางหน้าผากของหัวขโมย

“ผมขอโทษครับ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะขโมยแหวนของคุณเลยครับ ผมมีความจำเป็นจริงๆ ครับ” ในที่สุดภมรก็รับสารภาพว่าเขาเป็นคนขโมยของรัก ของหวงของคาลิเอโปมาจริงๆ ภมรทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าพร้อมกับยกมือไหว้ร้อง ขอความเมตตาที่ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อีกฝ่ายจะมีให้หรือไม่ คาลิเอโปกระตุกยิ้มกับคำสารภาพของอีกฝ่าย

“สเตฟี่เอาตัวผู้ชายคนนี้ไปที่โรงแรม ฉันจะจัดการมันที่นั่น” สเตฟี่กับคารอสเดินมาที่ร่างของภมร ก่อนจะช่วยกับจับร่างของหัวขโมยหนุ่มไปที่รถยนต์คันหรูที่จอดอยู่ที่หน้าห้องเช่า

บทก่อนหน้า
บทถัดไป